วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ชามที่ 14 : บะหมี่ถ้วยท้ายรถ

ที่จริงแล้วชามที่ 14 นี้ควรจะเป็นก๊วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ที่บางแสน เพราะเดิมตั้งใจไว้อย่างนั้น แต่เมื่อไปถึงร้านเขาไม่เปิด เรานินทากันว่าคุณน้าที่เป็นเจ้าของร้านหนีไปทานเจแล้ว เลยไม่ได้มาเปิดร้าน ตอนขับรถออกมาเธอหยุดตรงที่เดิมที่่เคยงอนคราวก่อน ก่อนจะบอกว่า
“ร้านปิดงั้นกลับ”
“เฮ้ย...งี้ได้ไงล่ะ” เราโวยวาย
“ก็ช่วยไม่ได้นี่” เธอตอบ
“งั้นเราไปเดินดูพระอาทิตย์ตกน้ำกันก่อนนะ” เราต่อรอง

เดินดูพระอาทิตย์ เดินที่ชายหาด ดูเปลือกหอยตัวเล็กๆ เด็กน้อยมาขายอะไรสักอย่างอ้อนวอนนานเนิน เธอเดินแยกออกไปเมื่อเห็นเราแกล้งเด็กน้อยนั้น
ขับรถไปทางแหลมแท่นเพื่อหาร้านที่เราเคยนั่ง จนสุดทางก็ไม่เห็น ขับกลับผ่านวงเวียนไปอีกด้านของหาด ถึงเจอร้านที่เราเคยมานั่ง เธอหัวเราะเมื่อเห็นชื่อร้านฮาเร็ม เธอบอกเธอไม่หิว เราเลยมานั่งที่โขดหินริมหาด ลมแรง เธอหนาว เราชวนเธอทานอะไรอีกครั้ง เธออยากซดอะไรร้อนๆ มากกว่า เธอไปที่เซเว่นแล้วเลือกบะหมี่ถ้วย มาม่ารสหมูสับ เติมน้ำร้อนในร้าน เราเดินไปซื้อไส้กรอกเพื่อมาใส่บะหมี่ และก็ไฮเนเก้นแพ็คคู่กับน้ำแข็ง

เรามาเปิดท้ายรถแล้วนั่งกันที่นั่น เธอนั่งซดบะหมี่ถ้วย และเล่าถึงเวลาที่รู้สึกหนาวก็อยากจะทานอะไรร้อนๆ อย่างนี้ เรานั่งฟังไป ดื่มเบียร์ไป ทานไส้กรอกไป เธอยื่นถ้วยบะหมี่มาให้ เรายื่นกระติกใส่เบียร์ให้เธอ เราใส่ไส้กรอกลงในถ้วยบะหมี่ ผลัดกันยื่นถ้วยบะหมี่กับกระติก พระจันทร์โผล่ขึ้นมาอยู่บนหลังคาเซเว่น เกือบเต็มดวง เราชี้ให้เธอดู
“พระจันทร์คืนนี้สวยจัง” เราบอกเธอ บอกเธอว่าเราไม่ได้ทานมาม่ามานานทีเดียว เธอบอกเธอทานบ่อยๆ
กระทั่งมาม่าของเธอหมดถ้วย เราถามว่าจะเอาอีกไหม เธอไม่เอาแต่เห็นเราอยากทานอีก เลยให้เราไปซื้ออีกถ้วย เอารสต้มยำนะเธอบอกเพราะเห็นเราบอกเธอตั้งแต่ทีแรกว่ารสต้มยำน้ำข้นอร่อย เราไปซื้อมาอีกถ้วยพร้อมกับเอาสาหร่ายซองมาใส่ด้วย
ระหว่างที่เรานั่งทานถ้วยที่สองนั้น เธอสาละวนอยู่กับการหารูปในโทรศัพท์ให้เราดู มือเธอกดหารูปไป ปากก็จ๋อยๆ เล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับรูปที่หา รูปเจ้าพุงๆ รูปแก้มอ้วนๆ รูปไข่ตุ๋น ในแต่ละรูปก็มีเรื่องราวของมัน
เรื่องเยอะแหละ เพราะเราเองก็ฟังไปทานไป จนม่ามาอีกถ้วยเกือบหมด เราถึงนึกได้ เธอยังคงเล่าอยู่
“เพลินเลยอ่ะ จะหมดแล้ว” เราพูดเมื่อยื่นถ้วยมาม่าให้เธอ
“โหย...คนเดียวเลย ไม่แบ่งเลย” เธอโวยวาย เมื่อรับถ้วยไป
“ก็เพลินอ่ะ” เราตอบพร้อมยิ้มแหยๆ ก่อนจะหยิบกระติกมาดูดไฮเนเก้นในนั้น
“ดูซิ ไหนใส่สาหร่ายไปก็กินคนเดียวเลย” เธอบ่นต่อ

เรานั่งคุยกัน เราบอกเธอว่า มื้อนี้เป็นมาม่ามื้อที่อร่อยมาก เรานับมาม่านี้เป็นก๊วยเตี๋ยวด้วยได้ไหม เราจะได้เอามาเขียนลงในนี้ เธออนุญาต
ก่อนจะบอกว่าปวดฉี่ ค่ำแล้วห้องน้ำตามริมหาดก็ปิดหมดแล้ว เราเลยย้ายไปนั่งกันต่อที่ร้านลาพลาย่า คืนนี้มีโต๊ะเราอยู่โต๊ะเดียวในร้าน เรานั่งกันจนดึกดื่น กระทั่งร้านจะปิด ทางร้านขอเช็คบิลก่อน แล้วปล่อยให้เราสองคนนั่งกันต่อ โดยที่เขาปิดร้านหมดแล้ว เมื่อเราจะกลับกัน เธอก็ปวดฉี่อีกครั้ง

01.44/21/10/230 อาทิตย์
ปล.ทานเมื่อคืนวันที่ 2ลาพลาย่า, 4ยักษ์, 12-13, 17กะทิ, 18กลางคืนบิน น่าจะเขียนได้ดีกว่านี้ ก็อย่างที่รู้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น